Winkin Coffee 5.71

Centralplazarayong
Muang Rayong, 21000
Thailand

About Winkin Coffee

Winkin Coffee Winkin Coffee is a well known place listed as Place To Eat/Drink in Muang Rayong , Food/beverages in Muang Rayong ,

Contact Details & Working Hours

Details

1.) ร้านกาแฟ 3 รุ่น ขายมาเกือบ 100 ปี
-รุ่นที่ 1
เริ่ม 2471 ชื่อร้านยังไม่มี โดย อากุุ๊งและอาม่า ตอนเริ่มยังเป็นรถเข็นขายบริเวณสี่แยกไฟแดงกะเฉด พอเก็บเงินได้ ขยับเข้ามาซื้อที่ด้านใน ยกบ้าน เริ่มต้นร้านในที่ปัจจุบันนี้ ด้วยเงิน 500บาท และจดทะเบียนการค้า ปี2485 ใช้ชื่อว่า "อื้อฮั่วล้ง" โดยมาจากชื่อ นามสกุลของอากุุ๊งในภาษาจีน ยุคนั้นข่าวสารก็จะมาจากหนังสือพิมพ์ ผู้คนในระแวกนั้นจึงนิยมมาหาข่าวสารพูดคุยกัน ร้านเปิดบริการตี4 แต่จะมีคนมานั่งจองที่ก่อนเปิดร้านเสมอ คนแถวนั้นเรียกว่า "ร้านกาแฟ เจ๊กเป๋กิมย้ง"
-รุ่นที่ 2
เริ่มสานต่อร้านกาแฟรุ่น 2 ในปี2526 ไม่มีชื่อร้าน โดยแม่ของผมเอง
เป็นยุคของโทรทัศน์ สื่อผ่านน่าจอขาวดำ และวิทยุออกเสียงเพียงจิตนาการตามคำพูด ผู้คนคับคังเช่นเดิม คนเก่ามา คนใหม่เพิ่มต้องขยายโต๊ะเพิ่ม เริ่มต้นของสภากาแฟยุคนี้คือ มีคนคุยเถียงกันเรื่องข่าวสารต่างๆ ถือว่าเป็นสเหน่ห์ของร้านกาแฟ เปิดบริการตี4 เพราะผู้คนขนผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์มาขายในตลาดฝั่งตรงข้ามร้าน และมีผู้คนมาซื้อของจับจ่ายใช้สอย ทำให้ครึกครื้นมากขึ้น คนแถวนั้นเรียกว่า"หมอติ๊ดร้านกาแฟ"
เพราะ คนติดกาแฟสูตรแม่มาก มีคนพูดติดตลกว่าลงแดงด้วยรสชาด ที่น่าลิ้ม จ่ายคาเฟอีน ด้วยกาแฟ นั้นคือที่มาของคำว่า"หมอติ๊ด"

-รุ่นที่ 3
ยุคของผมเอง สมัยเด็กอายุ5ขวบตื่นด้วยความแตกตื่นของเสียงผู้คน ลงมาดูและทดลองชิมโอวันติน+ไข่ลวก ตามเช่นคนกินหน้าร้าน ติดใจและตื่นตี4มากินทุกวันก่อนไปโรงเรียน 7ขวบเริ่มข้ามถนนเป็นคุณแม่สร้างเกมส์สนุกให้เล่น เช่น ส่งกะติกกาแฟตามที่ตำแหน่งของแผงร้านค้าหน้าตลาดสด และเริ่มชงเป็นเองโดยจากการมองที่เมนูชา โอวันติน ในวัย8ขวบ
----------------------------------------------------
2.) ความรัก
ที่หมอติ๊ด(คุณแม่)รับช่วงต่อจากความเป็นห่วงด้วยกิมย้ง(คุณยาย)ชราแล้ว และด้วยความบากบั่นอดทนสู้ชีวิตเพื่อลูกของหมอติ๊ด ทำให้เห็นมือคุณแม่ที่คดงอผิดรูปร่าง นั้นคือความรักที่ทำกาแฟ ทำเพื่อหาเงินตรากตรำ ส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดีไม่แพ้คนอื่น กะผมจึงทนนิ่งเฉย เพียงดูไม่ได้ จะต้องรับช่วงต่อโดยให้คุณแม่พัก และผมพูดกับครอบครัวเกษมสุขนี้ว่า"ผมพร้อมจะก้าวข้ามคำว่าชีวิตวัยรุ่นแสนสุขสบาย จะตรากตรำทำเพื่อคนรักที่ผมเคยมองพลาดมาก่อน ขอชดเชยทั้งชีวิตนี้จะดูแล ปกป้อง ตรากตรำ ดำรงค์ให้ทุกคนสุขสบาย แม้กายผมจะเป็นเช่นใด"

"
แม่ผมคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต หากไม่มีแม่ท่านนี้ คงไม่มีผมในวันนี้เช่นกัน

3.) เริ่มต้นแบบหัวชนฝาหน้าสู้ไฟ(เตาต้มน้ำร้อน)
เพื่อดำรงค์ชีวิตได้ ให้รู้จักค่าของเงิน เล็งเห็นโอกาสด้านทักษะของเดิม จึงเพิ่มของใหม่ ก่อเกิดความร่วมสมัยที่ผู้บริโภคตอบสนองอยู่แล้ว จึงอยากสร้างเอกลักษณ์เฉพาะ
-เลือกทิ้งสูตรที่เสียเงินเรียนมา
เคยคิดว่ากาแฟโบราณเชยมากๆ กาแฟสดเจ๋งกว่าเยอะ ทำตามสูตรของที่เรียนมันก็รู้สึกยังไม่ใช่ คิดว่า"ถ้าเราชงแบบที่เขาเปิดสอนมารสชาดไม่ต่างจากร้านอื่น" อีกทั้งสูตรที่เรียนมากับคุณภาพที่ผมอยากให้เป็นมันอยู่คนละตำแหน่งกัน จึงกลับมาใช้สูตรของแม่

-เก่าก็เก๋ากว่า
คงจะคล้ายกับที่ผมเคยได้ยินว่าถ้าทำอาหารด้วยความรัก อาหารจะอร่อย อย่างงั้นแล้วสูตรไหนหละจะมาสู้สูตรที่บ่มเพาะถ่ายทอดมา 80 ปีได้(สังเกต ปรับปรุง พัฒนา) มันก็ต้องเจ๋งกว่าสิ พอนึกขึ้นได้ความ “ศรัทธา” ในสูตรของแม่มันก็กลับมาครับ
ผมเลือกใช้เทคนิคลับเฉพาะที่ส่งต่อกันมาถึง2รุ่น นำมาใช้ เหตุผลก็คล้ายกับ"พระเอก เรื่องBattle ship ใช้เรือปลดประจำการเก่าๆอนาลอคล้วนๆแต่กลับชนะอีกฝ่ายได้”
-เวลาผมทำกาแฟจะไม่ตวงสเกลเหมือนที่นิยมกัน
ผมปล่อยให้น้ำหนักมือในการตักตวงออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกสดๆเลยครับ ผมว่ามันสื่อสารได้แม่นยำกว่าตวงซะอีก เวลาทำกาแฟจะอารมณ์ขุ่นไม่ได้ จะเห็นว่าผมอารมณ์ดีตลอด เวลาอารมณ์ดีมีสมาธิทำอะไรก็ดี ฟังดูเหมือยกะมั่วๆ แต่ไม่ใช่นะครับ อาจจะเรียกว่าพรสวรรค์หรือเทคนิคส่วนตัว อยากให้เพื่อนที่ทำกาแฟด้วยกันลองนำไปใช้ดูครับ^^