คุณค่าและความหมายของศิลปะ
จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการขีดเขียน การวาด และระบายสี เพื่อให้เกิดภาพ เป็นงานศิลปะที่มี 2 มิติ เป็นรูปแบบไม่มีความลึกหรือนูนหนา แต่สามารถเขียนลวงตาให้เห็นว่ามีความลึกหรือนูนได้ ความงามของจิตรกรรมเกิดจากการใช้สีในลักษณะต่าง ๆ กัน
องค์ประกอบสำคัญของงานจิตรกรรม คือ
1. ผู้สร้างงาน หรือ ผู้วาด เรียกว่า จิตรกรร
2. วัสดุที่ใช้รองรับการวาด เช่น กระดาษ ผ้า ผนัง ฯลฯ
3. สี เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงเนื้อหา เรื่องราวเกี่ยวกับผลงาน
งานจิตรกรรมเป็นงานศิลปะที่เก่าแก่ดั้งเดิมของมนุษย์ เริ่มตั้งแต่การขีดเขียนบนผนังถ้ำ บนร่างกาย บนภาชนะเครื่องใช้ต่าง ๆ จนพัฒนามาเป็นภาพวาดที่ใช้ประดับตกแต่งในปัจจุบัน การวาดภาพเป็นพื้นฐานของงานศิลปะทุกชนิด ผู้สร้างสรรค์งานจิตรกรรม เรียนว่า จิตรกร (Painter)
งานจิตรกรรม แบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ
1. การวาดเส้น (Drawing) เป็นการวาดภาพโดยใช้ปากกา หรือดินสอ ขีดเขียนลงไป บนพื้นผิววัสดุรองรับเพื่อให้เกิดภาพ
การวาดเส้น คือ การขีดเขียนให้เป็นเส้นไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก หรือ เส้นใหญ่ ๆ มักมีสีเดียว แต่การวาดเส้นไม่ได้จำกัดที่จะต้องมีสีเดียว อาจมีสีหลาย ๆ สีก็ได้ การวาดเส้น จัดเป็นพื้นฐานที่สำคัญของงานศิลปะแทบทุกชนิด
2. การระบายสี (Painting) เป็นการวาดภาพโดยการใช้พู่กัน หรือแปรง หรือวัสดุอย่างอื่น มาระบายให้เกิดเป็นภาพ การระบายสี ต้องใช้ทักษะการควบคุมสีและเครื่องมือมากกว่าการวาดเส้น ผลงานการระบายสีจะสวยงาม เหมือนจริง และสมบูรณ์แบบมากกว่าการวาดเส้น
งานจิตรกรรม ที่นิยมสร้างสรรค์ ขึ้นมีหลายลักษณะ ดังนี้ คือ
1. ภาพทิวทัศน์ (Landscape Painting) เป็นภาพที่แสดงความงาม หรือความประทับใจในความงาม ของธรรมชาติ หรือสิ่งแวดล้อมของศิลปินผู้วาด ภาพทิวทัศน์แบ่งเป็นลักษณะต่าง ๆ ได้แก่
1.1 ภาพทิวทัศน์ผืนน้ำ หรือ ทะเล (Seascape )
1.2 ภาพทิวทัศน์พื้นดิน (Landscape)
1.3 ภาพทิวทัศน์ของชุมชนหรือเมือง (Cityscape)
2 ภาพคน (Figure Painting) เป็นภาพที่แสดงกิริยาท่าทางต่าง ๆ ของมนุษย์แบบเต็มตัว โดยไม่เน้นแสดงความเหมือนของใบหน้า
3. ภาพคนเหมือน (Potrait Painting) เป็นภาพที่แสดงความเหมือนของใบหน้า ของคน ๆ ใดคนหนึ่ง
4. ภาพสัตว์ ( Animals Figure Painting) แสดงกิริยาท่าทางของสัตว์ในลักษณะต่าง ๆ
5. ภาพประกอบเรื่อง (Illustration Painting) เป็นภาพที่เขียนขึ้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราว หรือถ่ายทอดเหตุการณ์ต่าง ๆ
6. ภาพหุ่นนิ่ง (Sill Painting) เป็นภาพวาดเกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ หรือ วัสดุต่าง ๆ ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่อยู่กับที่
7. ภาพจิตรกรรมฝาผนัง (Mural Painting ) เป็นภาพเขียนที่เขียนไว้ตามผนังอาคาร โบสถ์ หรือวิหารต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะแสดงเรื่องราวศาสนา ชาดก ประวัติของศาสดา กิจกรรมของพระมหากษัตริย์ บางแห่งเขียนไว้เพื่อประดับตกแต่ง
วัสดุหรือสีที่ใช้ในงานกิจกรรม
ปัจจุบันสีที่นิยมใช้ในงานจิตรกรรมมากมาย จะขอกล่าวเฉพาะที่สำคัญ ดังนี้
1. สีฝุ่น (Tempera Color) เป็นสีที่เก่าแก่ที่สุดเป็นผงคล้ายแป้ง เวลาระบายต้องผสมกาวหรือไข่ขาว มีคุณสมบัติทึบแสง เป็นสีที่ช่างเขียนไทยใช้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง สีฝุ่นมีการเขียนอยู่ 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ
1.1 ระบายบนพื้นแห้ง ใช้เขียนได้ทั้งพื้นไม้ พื้นปูนหรือผนังต่าง ๆ ที่แห้งสนิทแล้ว จิตรกรรมฝาผนังของไทยใช้วิธีการเขียนนี้ เพราะภาพเขียนไทยมีความละเอียดอ่อน ประณีตบรรจง และใช้เวลาเขียนนาน
1.2 ระบายบนพื้นที่เปียกหรือยังขึ้นอยู่ ใช้เขียนบนผนังปูนที่กำลังชื้นอยู่ ส่วนใหญ่เป็นงานกิจกรรมฝาผนังของชาวตะวันตก ซึ่งเริ่มเขียนกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ การเขียนต้องแข่งกับเวลาเพราะปูนจะแห้งเร็ว แต่เมื่อแห้งสนิทดีแล้ว ปูนจะดูดสีเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันทำให้ภาพอยู่ได้นานกว่าแบบแรก และมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “ภาพแฟรสโก” (Fresco) เช่น ภาพที่ผนังเพดานโบสถ์ซิสติน ผลงานไมเคิล แองเจโล ในประเทศไทย พบที่โบสถ์วัดราชาธิวาส กทม.
2. สีน้ำมัน (Oil Color) เป็นสีที่ได้รับความนิยมมากทั้งผู้ดูและช่างเขียนเพราะเขียนง่ายทนทาน ทิ้งไว้นาน กลับมาเขียนทับอีกก็ได้ ภาพสำเร็จดูสมจริงมีความเป็นเนื้อ (Mass) มากกว่าสีชนิดอื่น ราคาขายก็ดี ภาพที่มีราคาแพง ๆ เช่น ภาพคนกินมัน ของวินเซนต์ แวนโก๊ะ ก็เขียนด้วยสีน้ำมัน แม้ว่าจะมีคุณสมบัติทึบแสง แต่ก็สามารถเขียนให้ใสได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการเขียนของแต่ละบุคคล เวลาเขียนต้องผสมน้ำมันลินซีด และเขียนบนผ้าใบที่เรียกว่า แคนวาส (Canvas)
3. สีน้ำ (Water Color) เป็นสีที่ใช้ได้ทั้งนักศึกษาและศิลปิน มีคุณสมบัติโปร่งแสง ต้องระบายลงบนพื้นกระดาษขาวเท่านั้น เนื่องจากเป็นสีที่แห้งเร็ว ผู้เขียนจะต้องมีความชำนาญภาพที่สำเร็จจึงจะสวยงาม ปัจจุบันมีศิลปินที่เขียนเฉพาะสีน้ำประสบผลสำเร็จมากมาย
4. สีอะครีลิค (Acrylic Color) เป็นสีที่มีส่วนผสมของสารพลาสติกโพลิเมอร์ สามารถเขียนแบบสีน้ำมัน และสีน้ำก็ได้ สีนี้เป็นผลพลอยได้มาจากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลี่ยม จึงมีราคาแพงพอสมควร แต่มีคุณภาพดีสีสวยสดใส
5. สีโปสเตอร์ (Poster Color) เป็นสีชนิดสีฝุ่น (Tempera) ที่ผสมกาวน้ำบรรจุเสร็จเป็นขวด การใช้งานเหมือน กับสีน้ำ คือใช้น้ำเป็นตัวผสมให้เจือจาง สีโปสเตอร์เป็นสีทึบแสง มีเนื้อสีข้น สามารถระบายให้มีเนื้อเรียบได้ และผสมสีขาวให้มีน้ำหนักอ่อนลงได้เหมือนกับสีน้ำมัน หรือสีอะคริลิค สามารถระบายสีทับกันได้ มักใช้ในการวาดภาพประกอบเรื่องในงานออกแบบต่าง ๆ ได้สะดวก ในขวดสีโปสเตอร์มีส่วนผสมของกลีเซอรีน จะทำให้แห้งเร็ว
6. สีชอล์ค (Pastel) เป็นสีฝุ่นผงละเอียดบริสุทธิ์นำมาอัดเป็นแท่ง มีการผสมขี้ผึ้งหรือกาวยางไม้เข้าไปด้วยแล้วอัดเป็นแท่งในลักษณะของดินสอสี แต่มีเนื้อละเอียดกว่าแท่งใหญ่กว่า และมีราคาแพงกว่ามาก มักใช้ในการวาดภาพคนเหมือน และภาพหุ่นนิ่ง
7. ดินสอสี (Crayon) เป็นสีผงละเอียด ผสมกับขี้ผึ้งหรือไขสัตว์ นำมาอัดให้เป็นแท่งอยู่ในลักษณะของดินสอ เพื่อให้เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ใช้งาน ปัจจุบันมีการพัฒนาให้สามารถละลายน้ำ หรือน้ำมันได้ โดยเมื่อใช้ดินสอสีระบายสีแล้วนำพู่กันจุ่มน้ำมาระบายต่อ ทำให้มีลักษณะคล้ายกับภาพสีน้ำ บางชนิดสามารถละลายได้ในน้ำมัน ซึ่งทำให้กันน้ำได้
8. สีเทียน (Oil Pastel) สีเทียนหรือสีเทียนน้ำมัน เป็นสีฝุ่นผงละเอียด ผสมกับไขมันสัตว์หรือขี้ผึ้ง แล้วนำมาอัดเป็นแท่ง มีลักษณะทึบแสง สามารถเขียนทับกันได้ การใช้สีอ่อนทับสีเข้มจะมองเห็นพื้นสีเดิมอยู่บ้าง การผสมสี อื่น ๆใช้การเขียนทับกัน สีเทียนน้ำมันมักไม่เกาะติดพื้น สามารถขูดสีออกได้ และกันน้ำ ถ้าต้องการให้ สีติดแน่นทนนาน จะมีสารพ่นเคลือบผิวหน้าสี สีเทียนหรือสีเทียนน้ำมัน มักใช้เป็นสีฝึกหัดสำหรับเด็ก เนื่องจากใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน และมีราคาถูก